การรักษารากฟัน เป็นขั้นตอนการรักษาทางทันตกรรม โดยการกำจัดเนื้อเยื่อในโพรงฟันและคลองรากฟันที่มีการติดเชื้อและอักเสบ ร่วมกับการทำความสะอาดในคลองรากฟันให้ปราศจากเชื้อโรค ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของฟันที่ต้องได้รับการรักษารากฟัน เป็นฟันที่ผุลึกมากจนทะลุโพรงประสาทฟัน ฟันที่ร้าว แตกหัก ฟันสึกจนทะลุโพรงประสาทฟัน และฟันที่ได้รับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ทำให้มีเชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทฟันและทำให้เกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟันได้ คำแนะนำหลังการรักษารากฟัน 1. ในกรณีที่ฉีดยาชา คนไข้ต้องรอให้ยาชาหมดฤทธิ์ก่อนแล้วค่อยรับประทานอาหาร เพราะการรับประทานอาหารระหว่างที่ยังชาอยู่อาจจะทำให้กัดลิ้นหรือริมฝีปาก โดยไม่รู้ตัวหรือควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องเคี้ยว แล้วหาอาหารที่ทานง่าย อาทิ โจ๊ก, นม, น้ำเต้าหู้ เป็นต้น 2. ในระยะ 2-3 วันแรกของการรักษา คนไข้อาจรู้สึกว่าเหงือกบริเวณที่รักษารากฟันมานิ่มลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ 3. การบดเดี้ยวอาหารหลังรักษารากฟันใหม่ๆ อย่ากัดอาหารด้วยฟันที่เพิ่งรักษารากฟันมา ควรเคี้ยวอาหารอย่างระมัดระวัง อย่าเคี้ยวอาหารที่มีลักษณะแข็งกรอบ อาทิ ถั่ว 4. การใช้งานครอบฟัน ในระยะแรกคนไข้อาจจะรู้สึกแปลกปลอม เคี้ยวไม่ถนัด ซึ่งนานไปจะรู้สึกชินไปเอง 5. ดูแลรักษาความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตรงบริเวณที่รักษารากฟันเป็นประจำทุกวัน และหากตรวจพบฟันผุที่ซี่อื่น ๆ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ 6. หากพบปัญหาเหล่านี้ควรรีบไปพบทันตแพทย์ – อาการบวมทั้งภายในและภายนอกปาก – กลับไปปวดฟันเหมือนก่อนที่จะรักษารากฟัน – มีอาการแพ้ยา […]
Monthly Archives: August 2020
คำแนะนำหลังการทำรากฟันเทียม หลังจากทันตแพทย์ทำการบูรณะด้านบนของรากฟันเทียมแล้ว ซึ่งอาจจะเป็น ครอบฟัน, สะพานฟัน หรือฟันปลอม ขึ้นอยู่กับจำนวนฟันที่สูญเสียและความต้องการของคนไข้ ซึ่งหลังจากทดแทนฟันเรียบร้อยแล้วคนไข้ควรปฏิบัติตัวดังนี้ 1. รักษาความสะอาดช่องปากอยู่เสมอด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 2. ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันเป็นประจำ วันละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะซี่ที่เป็นรากฟันเทียม 3. หลีกเลี่ยงการใช้ฟันที่ทำรากฟันเทียมมาเคี้ยวอาหารที่มีความแข็ง เหนียว แม้รากฟันเทียมจะยึดกับกระดูกเรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ไม่ควรให้ฟันซี่นั้นกระทบกระแทกอะไรแรงๆ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อรากฟันเทียมได้ 4. พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและตรวจรากฟันเทียมที่ได้ทำไว้ด้วยเป็นประจำ 5. หากดูแลรักษาความสะอาดช่องปากไม่ดี เหงือกที่อยู่โดยรอบก็สามารถเกิดการอักเสบได้เหมือนฟันธรรมชาติ หากปล่อยให้เหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น กระดูกโดยรอบฟันก็จะถูกทำลาย ทำให้รากฟันเทียมเกิดการโยก และหลุดในที่สุด ดังนั้นการดูแลความสะอาด และตรวจสุขภาพช่องปากอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก