สิ่งที่ต้องทำเมื่อผ่าฟันคุดเสร็จแล้ว 1. กัดผ้าก๊อซให้แน่น ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยเปลี่ยนผ้าก๊อซชิ้นใหม่ 2. ขณะกัดผ้าก๊อซให้กลืนเลือด กลืนน้ำลาย ไม่ควรอมน้ำลายเอาไว้ เพื่อให้เลือดเข็งตัวเร็วขึ้น 3. ห้ามบ้วนปาก ห้ามบ้วนเลือดและน้ำลาย ให้กลืนเลือดและน้ำลาย 4. ห้ามใช้ลิ้นสัมผัส หรือ เอาลิ้นไปดุนแผลผ่าฟันคุด เพราะจะไปรบกวนการแข็งตัวของเลือด 5. ประคบน้ำแข็งบริเวณแก้มข้างที่ผ้าฟันคุด เฉพาะวันที่ผ่าฟันคุดเท่านั้น 6. ทานยาตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด 7. ทานอาหารอ่อนๆ งดอาหารแข็ง เหนียว และอาหารที่มีรสจัด 8. ควรแปรงฟันเบาๆ ด้านที่ผ่าฟันคุด 9. ไม่ควรออกกำลังการหรือเล่นกีฬาที่หักโหมในช่วงแรก 10. หากมีอาการปวด ชา หรือเลือดไหลไม่หยุด ให้กลับไปพบทันตแพทย์ 11. ไปพบคุณหมอตามนัดเพื่อตรวจแผลและตัดไหมโดยทั่วไป 7 – 10 วันหลังผ่าฟันคุด
Monthly Archives: October 2018
สาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก การเกิดกลิ่นปากที่มีสาเหตุจากภายในช่องปาก 1. ฟันผุ เป็นรู ทำให้เป็นที่กักเก็บเศษอาหาร 2. เหงือกอักเสบ ทำให้มีเลือดออกขณะแปรงฟัน 3. มีหินปูนสะสม ทำให้เกิดกลิ่นปาก 4. โรคปริทันต์ หรือโรครำมานาด ฟันโยก มีหนอง 5. มีแผลในช่องปาก เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย 6. ดื่มน้ำน้อย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว 7. น้ำลายเหนียว หรือ ปากแห้ง น้ำลายไหลน้อย ควรจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดเวลา 8. ใส่ฟันปลอม แต่ทำความสะอาดฟันปลอมไม่ถูกวิธี 9. คนไข้ติดเหล็กจัดฟัน แต่ทำความสะอาดฟันไม่ถูกวิธี 10. มีการสะสมของคราบแบคทีเรียและเศษอาหารบนผิวด้านบนของลิ้น
วิธีดูแลฟันสำหรับคนจัดฟัน ไม่ให้มีกลิ่นปาก 1. ทานผัก ผลไม้ เน้นที่มีกากใย จะช่วยขัดคราบอาหารตามลิ้นและฟัน 2. แปรงฟันและอุปการณ์จัดฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 3. หลังทานอาหารควรบ้วนปากและแปรงฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างตามซอกฟัน 4. ควรใช้อุปกรณ์พิเศษทำความสะอาดฟัน เช่น แปรงซอกฟัน หรือ ซุปเปอร์ฟลอสอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน 5. หลังแปรงฟันควรแปรงลิ้นด้วยแปรงสีฟัน หรือ อุปกรณ์ทำความสะอาดลิ้นเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่สะสมบนลิ้น 6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เพื่อลดการเกิดกลิ่นปาก 7. งดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารที่ทำให้เหงือกอักเสบ 8. ควรพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟัน ขูดหินปูนทุก 6 เดือน
ปวดฟันเป็นอะไรที่ทรมารมาก ระหว่างที่รอพบทันตแพทย์มี 8 วิธี เพื่อลดอาการปวดฟันที่ควรรู้ 1. ทานยาแก้ปวด แล้วรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อรักษาทันที 2. หลีกเลี่ยงอาหาร รสจืด เย็นจัด ร้อนจัด 3. ทานอาหารอ่อนๆ เพื่อลดการใช้แรงบดเคี้ยว ลดการกระทบกันของฟัน 4. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารด้านที่ปวด 5. บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นๆ 6. งดแอลกอฮอล์ทุกชนิด 7. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี 8. ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก 6 – 12 เดือน
6 อาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่มั่นใจ 1. ผักใบเขียวและผลไม้ที่มีกากใย จะช่วยขัดฟันทำให้ลดการเกาะติดของเศาอาหาร 2. ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยลดการเกิดเลือดออกตามไรฟัน 3. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ดีต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากอาหารที่กล่าวมาแล้ว เราจะต้องแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอด้วยนะคะ